วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ปลาสลิดสามารถมาทำอาหารอย่างไรได้บ้าง













วิธีทำ

นำตัวละครทั้งหมดใส่ลงหม้อ ยกเว้น ตัวร้าย (หรือพริกขี้หนูไว้ใส่ทีหลัง) ส่วนนางอิจฉาอย่างน้องมะขาม ก็โยนหล่อนลงไปทั้งฝักเลยค่ะ เดี๋ยวพอเปรี้ยวได้ใจค่อยเขี่ยหล่อนทิ้ง...



นื่องจากพระเอกเป็นกะทิกล่อง เจเจเลยต้องเติมน้ำในอัตราส่วน กะทิต่อน้ำ 1:1.5 เพื่อลดความมันเร้าใจลงบ้าง ไม่งั้นผู้ชมผู้ชิมจะมีปัญหาที่หัวใจในระยะยาวได้นะคะ 

กะทินี่ใส่ลงไปให้ท่วมส่วนผสมทั้งหมดเลยนะคะ

ต้มใช้ไฟกลางจนเดือด แล้วปรับไฟเป็นไฟอ่อน ต้มไปเรื่อยๆให้มะขามเปียกออกรสเปรี้ยวตามชอบ
ระหว่างต้มก็ชิมรสไปด้วยนะ บ้านเจเจชอบทานแบบเปรี้ยวๆเค็มๆ หวานตามน้อยๆ เลยไม่ใส่น้ำตาลค่ะ แค่หวานจากตักเสริฟ โรยด้วยพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู และผักชีโรยหน้า... แค่นี้ ปลาสลิดต้มกะทิ ก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งและหอมเล็กก็พอแล้ว พอนางเอกปลาสลิดนุ่มนิ่มเพราะโดนพ่อกะทิแทรกเข้าไปทุกอณูเรียบร้อยก็ใช้ได้ค่ะ






Salid11.jpg

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เเหล่งได้มาซึ่งข้อมูล

เเหล่งสื่ออินเตอร์เน็ต


http://www.otoptoday.com/wisdom/provinces/center/%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3/1309925758


เเหล่งสื่อ หนังสือ ตำรา

                             

เเหล่งสื่อบุคคล


คุณยุพิน ธัญญารัตน์ (เเม่ค้าขายปลาสลิด จังหวัดสมุทรสาคร)

ขั้นตอนการทำปลาสลิดตากเเห้ง


u1. นำปลาสลิดเค็มตากแห้ง 2 แดด(เนื้อปลาแห้งแข็ง) นำมาล้างทำความสะอาด

u2. นำปลาสลิดที่ได้ลงนึ่งในลังถึงจนสุก ประมาณ 15 นาทีปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น

u3. นำปลาสลิดมาแล่เอาก้างตรงกลางตัวตัวออกให้หมด

u4. นำปลาลงทอดในน้ำมันพืชให้เหลืองกรอบ ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น

u5. นำเข้าเตาอบประมาณ 15 นาที ใช้อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮท์



6. นำบรรจุในถุงพลาสติกใส่ซองดูดซับออกซิเจน ซีลปากถุงให้สนิท เก็บรักษาได้นาน
รูปปลาสลิดที่เเม่ค้าเค้าเตรียมขาย เเต่ก็ตากเเดดไปในตัวเลย






การคัดขนาดของปลาสลิด

เเล่เอาก้างปลาออก

การทอดปลาสลิด

คัดขนาดปลาก่อนเข้าเตาอบ

นำเข้าเตาอบ




u








ปลาสลิดสืบพันธ์อย่างไร


uลักษณะเพศ ปลาสลิดตัวผู้และตัวเมียมีความแตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

คือ ปลาตัวผู้มีลำตัวยาวเรียว สันหลัง และสันท้องเกือบเป็นเส้นตรงขนานกัน มีครีบหลังยาวจรดหรือ

เลยโคนหาง มีสีลำตัวเข้มและสวยกว่าตัวเมีย ส่วนตัวเมียมีสันท้องยาวมนไม่ขนานกับสันท้องและครีบ

หลังมนไม่ยาวจนถึงโคนหาง สีตัวจางกว่าตัวผู้ ในฤดูวางไข่ท้องจะอูมเป่งออกมาทั้งสองข้าง อัตราการ

ปล่อยพ่อแม่พันธุ์ปลาสลิด 1:1 เป็นปลาขนาดกลาง น้ำหนัก 10-12 ตัวต่อกิโลกรัม ดีที่สุด

ปลาสลิดเพศผู้


ปลาสลิดเพศเมีย

รูปร่างของปลาสลิดเป็นอย่างไร



u

ปลาสลิดมีรูปร่างคล้ายปลากระดี่หม้อ
แต่ขนาดโตกว่า ลำตัวแบนข้างมีครีบ ท้องยาวครีบเดียว สีของ



ลำตัวมีสีเขียวออกเทาหรือมีสีคล้ำเป็นพื้น และมีริ้วดำพาดขวางตามลำตัวจากหัวถึงโคนหาง เกล็ดบน


เส้นข้างตัวประมาณ 42-47 เกล็ด ปากเล็กยืดหดได้ ปลาสลิดซึ่งมีขนาดใหญ่เต็มที่จะมีความยาว


ประมาณ 20 เซนติเมตร

การเพาะเลี้ยงพันธ์ปลาสลิด


พันธุ์ปลาสลิดหรือปลาใบไม้






ปลาสลิด สามารถผสมพันธและวางไข่ได้เมื่อมีอายุ 7 เดือนขนาดโตเต็มที่โ่ี ดยเฉลี่ยจะมีข นาด

ตัวยาวประมาณ 6-7 นิ้ว หนัก 130-400 กรัม ปลาสลิด จะเริ่ม วางไขตั้งแต่เดือน เมษายน ถึงเดือน สิงหาคม

 หรือในฤดูฝน แม่ปลาตัวหนึ่งๆ จะสามารถวางไขได้ห ลายครั้ง แตล ะครั้ง จะไดปริมาณไข่ ประมาณ 


4,000-10,000 ฟอง ในฤดวู างไข่ ท้องแมปลาจะอูม เป่ง ออกมาทั้งสองข้าง ลักษณะของไข่ ปลาสลิดมีสี

เหลือง ทั้ง น้ี ควรจัดที่ใ่ี หม่ให้ป ลาสลดิ วางไขภ ายในเดือน  มีนาคม โดยหลังจากที่ได้กําจัดศตูร ระบายนํ้า

เขา และปล่อ ยพันธ์ป ลาลงบ่อแล้ว ควรปลูก ผักบุ้ง รอบบริเ วณชานบ่อน้ำ ลึก ประมาณ 20-30 เซนติเมตร 

ปลาสลิด จะเข้า ไปก่อหวอดวางไข่ และลูกปลาวัยอ่อนจะสามารถเลี้ยงตัว หลบหลีก ศตูรตาม บริเวณชาน

บ่อนี้ได้

มารู้จักกับปลาสลิด


u
uปลาสลิดหรือปลาใบไม้เป็นปลาน้ำจืด มีรูปร่างคล้ายปลากระดี่หม้อ แต่ตัวโต กว่าเป็นปลาพื้นบ้านของ

ประเทศไทย มีแหล่งกำเนิดอยู่ในลุ่มน้ำภาคกลาง มีชื่อสามัญว่า Sepat siam หรือ 

Snake Skim Gourami นิยมเลี้ยงกันมากบริเวณภาคกลางของประเทศไทย ส่วนที่

พบในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ นั้นเป็นพันธ์ปลาที่ส่งจากเมืองไทย เมื่อ

ประมาณ 90 กว่าปีที่ผ่านมา และประเทศเหล่านี้ได้เรียกปลาสลิดของไทยว่า “Sepat 

Siam”(เซปัต เซียม) ซึ่งคำว่า เซปัต เป็นภาษาแขก แปลว่า ใบไม้ และคำว่า เซียม แปลว่า 

สยาม สำหรับปลาสลิดที่มีชื่อสียงเป็นที่รู้จักกันว่ามีรสชาติดี หอม เนื้ออร่อย คือ ปลาสลิดบางบ่อ 

จังหวัดสมุทรปราการเเละจังหวัดสมุทรสาคร






อุปนิสัย

ปลาสลิดชอบอยู่บริเวณที่มีน้ำนิ่ง เช่น หนอง บึง ตามบริเวณที่มีพันธ์ไม้น้ำ เช่น ผัก เเละ สาหร่าย เพื่อใช้

เป็นที่พักอาศัย กำบังตัว เเละก่อหวอดวางไข่ เนื่องจากปลาชนิดนี้โตเร็วในเเหล่งน้ำที่มีอาหารพวกพืช ได้


เเก่ สาหร่าย พืชเเละสัตว์เล็กๆ จึงสามารถนำปลาสลิดมาเลี้ยงในบ่อนาข้าวได้เป็นอย่างดี


ปลาสลิดไมค่อยจะเป็นโรคร้ายแรง หากนํ้าในบอเสียจะสังเกตเห็นปลาขึ้้นมาหายใจบนผิวนํ้า เพราะออก


ซเิจนล ะลายน้ําไม่เพียงพอ วิธีแก้ไขก็คือ ต้อ งถ่า ยน้ําเก่า ออกและระบายน้ําใหม่เขาไปหรือ ย้า ย ปลาไป






ไว้ในบ่ออื่น มักจะเกิดเห็บปลา ซึ่ งมีลีกษณะตัวแบน สีน้ำ ตาลใสเกาะติด ตามตัวปลา มาดูด


เลือดของปลากินความเจริญเติบโตของปลาชะงักลง ทําใหปลาผอม การกําจัดโดยระบายนํ้า สะอาดเขา 


ไปในบ่อ ใหม่ มากๆ ตัวเห็บก็จะหายไปได้



การป้องกันโรคระบาดอีก ประการหนึ่ง คือ ปลาทจ่ี ะนํามาเป็น พ่อพันธ์ แม่พันธ์ถ้าปรากฏว่า มีบ าด แผล


 ไม่ควรนําลงไปเลี้ยงกันในบ่อ เพราะปลาทเ่ี ป็น แผลจะเป็น โรคร้ายและติดต่อไปถึงปลาตัวอื่น ได้(*) จาก


สภาพพื้นที่เลี้ยงปลาสลิ ลดลง


ทักทาย



วันนี้เราจะมาทราบถึงวิธีการทำปลาสลิด